วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู
ด้วยเหตุนี้ในทุก ๆ ปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา
ปี พ.ศ. 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง”
จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความคิดเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน เป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกันประชาชน
การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน งานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ
การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลาในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1. กิจกรรมทางศาสนา
2. พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณ บูรพาจารย์
3. กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือ การจัดงาน รื่นเริงในตอนเย็น
ปัจจุบันการจัดงานวันครู ได้มีการกำหนดให้จัดพร้อมกันทั่งประเทศ สำหรับในส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการจัดงานวันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ประกอบด้วยบุคคลหลายอาชีพร่วมกันเป็นผู้จัด สำหรับส่วนภูมิภาคมอบให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับส่วนกลางจะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือแต่ละอำเภอก็ได้
โครงงานสิ่งที่มีประโยชน์
บล็อกนี้เพื่อสาระการเรียนรู้ สิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและโรคต่างๆ และสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ความคิดสร้างสรรค์วันลอยกระทง
1.นำขนมปังให้ปลากิน
2.เอารกะลามาทำกระทงและใส่ดอกไม้ปเทียน
3.ตบแต่งดอกไม้
4.เอาดอกบัวมาทำกระทง
5.เอาเศษขนมปังมาทำกระทง
6.ทำกระทงขึ้นมาเอง
7.เล่นพุใหถูก
8.ตบแต่งกระทง
9.ช่วนครอบครับไปลอยกระทง
10.ไม่ทิ้งขยะลงนํา
11.นำเศษของจากธรรมชาติมาทำ
12.ช่วยกันคิดวิธี ทำกระทง
13.แต่งใหถูก
14ให้อาหารปลา
15.ปลอยปลา
สิ่งที่จะทำในวันลอยกระทง
1.พูดจาใหเดีมากขึ้น
2.แต่งตัวให้ดี
3.ทำกระทงเอง
4.พาพ่อแม่ไปเที่ยว
5.ให้อาหารปลา
6.ไม่ควรเล่นพุ
7.เชื่อฟังพ่อแม่
8.ไม่เที่ยวกลางคืน
9.ไม่ตีกัน
10.ทำกระทงขึ้นมาเอง
11.รำวงวันลอยกระทง
1.นำขนมปังให้ปลากิน
2.เอารกะลามาทำกระทงและใส่ดอกไม้ปเทียน
3.ตบแต่งดอกไม้
4.เอาดอกบัวมาทำกระทง
5.เอาเศษขนมปังมาทำกระทง
6.ทำกระทงขึ้นมาเอง
7.เล่นพุใหถูก
8.ตบแต่งกระทง
9.ช่วนครอบครับไปลอยกระทง
10.ไม่ทิ้งขยะลงนํา
11.นำเศษของจากธรรมชาติมาทำ
12.ช่วยกันคิดวิธี ทำกระทง
13.แต่งใหถูก
14ให้อาหารปลา
15.ปลอยปลา
สิ่งที่จะทำในวันลอยกระทง
1.พูดจาใหเดีมากขึ้น
2.แต่งตัวให้ดี
3.ทำกระทงเอง
4.พาพ่อแม่ไปเที่ยว
5.ให้อาหารปลา
6.ไม่ควรเล่นพุ
7.เชื่อฟังพ่อแม่
8.ไม่เที่ยวกลางคืน
9.ไม่ตีกัน
10.ทำกระทงขึ้นมาเอง
11.รำวงวันลอยกระทง
วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ประเพณีวันลอยกระทง


ประเพณีลอยกระทง ตรงกับวันเพ็ญ (วันขึ้น 15 ค่ำ) เดือน 12 (ตามปฏิทินทางจันทรคติ) ประมาณเดือนพฤศจิกายน ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อแม่พระคงคา บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก สำหรับประเทศไทยประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือ แหล่งน้ำต่าง ๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ในอดีต ชาวเมืองตากจะมีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิง วิถีชีวิตของชาวตากจึงมีความผูกพันกับสายน้ำที่เปรียบเสมือนสายโลหิตที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองตากมานานหลายชั่วอายุคน จากความกตัญญูรู้คุณต่อสายน้ำ ก่อให้เกิดประเพณีที่แสดงออกถึงความกตัญญู ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองชาวเมืองตากได้จัดให้มีการลอยกระทงขึ้น ประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีปพันดวง เกิดจากการร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านในหมู่บ้านในการดำเนินกิจกรรม อันเป็นความเชื่อในการจัดทำกระทงนำไปลอย เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า อีกทั้งยังเป็นการลอยทุกข์โศกโรคภัยให้พ้นไปจากตนเอง และขอขมาที่ได้อาศัยแม่น้ำและทิ้งของเสีย ถ่ายเทสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำปิง โดยใช้โอกาสนี้ในการพบปะพูดคุย จัดกิจกรรมรื่นเริงภายในหมู่บ้านอีกด้วย เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง ชาวเมืองตากทุกครัวเรือนจะนำด้ายดิบ (ด้ายที่ปั่นมาจากฝ้าย) มาฟั้น ด้วยแต่ละเส้น จะประกอบด้วยด้ายเส้นเล็กๆ จำนวน 9 เส้น จากนั้นจะนำด้านที่ฟั้นเสร็จแล้วมาวัดตามความยาวของแขนที่กางออกทั้งสองข้างของสมาชิกภายในบ้านทุกคน เรียกว่า วัดวา แล้วเด็ดออก ด้ายแต่ละเส้นจึงมีความยาวไม่เท่ากันแล้วแต่ว่าผู้วัดจะมีความยาวของแขนเท่าไร จากนั้น นำด้ายที่วัดวาแล้วมาวัดที่ศรีษะของผู้เป็นเจ้าของด้ายเส้นนั้น เมื่อวัดรอบศรีษะได้เท่าใดก็ให้เด็ดออก จากนั้นนำด้ายที่วัดรอบศีรษะที่เด็ดออกมามัดต่อเข้ากับด้ายเส้นเดิม การกระทำเช่นนี้เป็นความเชื่อของผู้เท่าผู้แก่ ถือว่าเป็นการต่ออายุให้กับตนเอง ด้ายฟั่นที่เหลือจากการวัดวาก็จะนำมาทำฟั่นให้เป็นรูปตีนกา มีจำนวนเท่ากับสมาชิกในครอบครัว หรือมากกว่านั้นก็ได้ตามแต่ศรัทธา ต่อจากนั้นจึงนำด้ายทุกเส้นและตีนกา มาแช่ในน้ำมะพร้าว การทำตีนกาเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาว่า แสงไฟจากตีนกาจะเป็นการบูชาแม่กาเผือกของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ตามตำนวนเล่าว่า มีเณรน้อยผู้ชอบเที่ยวซุกซนองค์หนึ่ง มีนิสัยชอบล่าสัตว์ ยิงนก ตกปลาอยู่เป็นประจำ วันหนึ่งได้ยิงไก่, วัว, เต่า และพญานาคตาย แต่ก่อนสัตว์เหล่านณ ริมฝั่งแม่น้ำ มีต้นไทรใหญ่อยู่ต้นหนึ่งเป็นที่อยู่ของกาเผือกสองผัวเมีย ซึ่งได้ออกไข่มา 5 ฟอง อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่กาเผือกสองผัวเมียออกไปหาอาหารได้เกิดท้องฟ้ามือครึ้ม มีลมพายุพัดอย่างแรง ทำให้ไข่กาเผือกทั้ง 5 ฟอง ลอยตกลงไปในแม่น้ำ แต่ไข่นั้นหาจมน้ำไม่ กลับลอยไปติดที่ชายหาดแห่งหนึ่งและไข่ทั้ง 5 ฟอง ก็แตกออกเป็นทารก 5 คน ทารกทั้ง 5 คนนั้น คือ เณรน้อย, ไก่, วัว, เต่า และพญานาค ที่กลับมาเกิดนั่นเอง ทารกทั้ง 5 คน ได้พากันอธิษฐานร่วมกันว่า ถ้าตนทั้ง 5 ได้เป็นพี่น้องร่วมท้องเดียวกันก็ขอได้มีโอกาสพบพ่อแม่ด้วยเถิด ฝ่ายกาเผือกสองผัวเมียเมื่อตายลงก็ไปเกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ ได้เข้าฝันทารกทั้ง 5 ว่า "หากเจ้าทั้ง 5 คน อยากเห็นหน้าและระลึกถึงพ่อแม่ ก็จงฟั่นด้ายเป็นรูปตีนกา แล้วลอยแม่น้ำคงคาไป" ทารกทั้ง 5 จึงทำตาม และต่อมาทั้ง 5 คน ได้บำเพ็ญตนจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์เป็นพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์
วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ด.ช.อวิรุทธิ์ เดชกิจ gotzo_ratchiburiteme@hotmail.com
ด.ช.ปัญญาวุฒิ แสนภักดี cafe20102@hotmail.co.th
ด.ช.พุฒิพงศ์ จันทร์แม้น cafe20101@hotmail.co.th
ด.ช.ศรัณย์ พลัพลาชัย cafe20104@hotmail.co.th
ด.ช.ธนทัศน์ ใยดี cafe191@hotmail.co.th
ด.ช.ปัญญาวุฒิ แสนภักดี cafe20102@hotmail.co.th
ด.ช.พุฒิพงศ์ จันทร์แม้น cafe20101@hotmail.co.th
ด.ช.ศรัณย์ พลัพลาชัย cafe20104@hotmail.co.th
ด.ช.ธนทัศน์ ใยดี cafe191@hotmail.co.th
วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ประวัติโรงเรียนเทศบาล2(วัดช่องลม)
โรงเรียนเทศบาล2(วัดช่องลม)เป็นโรงเรียนเทศบาล2(วัดช่องลม)เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในวัดช่องลมเลขที่629/1ถนนไหรเพชรตำบลหน้าเมืองอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี จังหวัดราชบุรี เดิมเป็นดรงเรียนประชาบาลเปิดทำการสอนเมื่อวันที่10เมษายา 2467 ใช้ศาลาการเปรียญเป็ยสถานศึกษา เปิดเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่1ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่1มีครู8คนนีดเรียน90คน
ที่ตั้ง/ขนาด
โรงเรียนเทศบาล2(วัดช่องลม)ตั้งอยู่ที่เลขที่629/1ถนนไกรเพชร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรีหมายเลขโทรศัพท์ 032-337265 ทิศเหนือติดกับวัดช่องลม ทิศใต้ถนนไกรเพชร ทิศตะวันออกติดกับวัดช่องลม ทิศตะวันตกติดกับชุมชน จัดเป็นโรงเรียนขนาดดใหญ่ มีอาคารเรียน5หลัง ในพื้นที่3ไร่ 1งาน 23ตารางวา เป็นการสอนระดับชั้นปฐมวัย-มัธยมศึกษาปีที่3
สภาพชุมชน
โรงเรียนตั้งอยู่ใบปริเวณชุมชน มีสถานที่ราชการ ตลาด และโรงงานอุสาหกรรม(โรงงานปั้นโอ่ง)ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง กรรมกรในโรงโอ่ง ขับขี่สามล้อ ค้าขายรถเข็น รับจ้างก่อสร้าง เก็บกระดาษขาย หาเช้าดินคํา เป็นลูกจ้างรายวัน ให้ลูกกับปู่ ย่า ตา ยาย หรืออยู่ตามลำพังกับพี่น้อง บางครอบครัวไปรับจ้างต่างจังหวัด ครอบครับขาดความรัก ความอบอุ่น เด็กๆต้องช่วยเหลือตัวเอง ขาดเรียนบ่อย และสุขภาพไม่แข็งแรง เพราะอยู่ในแหล่งเสื่อมไทรมของชุมชน
วัดช่องลม เป็นพระอารามหลวง พระครูโสภณปัญญาวัฒน์ ดำรงน์แหล่งเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ประมาณ30-40รูป ส่วนที่เป็นโบราณวัตถุ คือหลวงพ่อแก่นจันทร์ รอบๆ วัดมีจำนวนครับเรือนประมาณ50หลัง จำนวนประชากรประมาณ200คน อาชีพรับจ้างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ5000-8000บาท
ข้อมูลพื้นฐาน เป็นโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี สำนักปรัสานและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น กรมส่งเสริม การปกคริง ท้องถิ่น กระทวงมหาดไทย กลุ่มโรงเรียนเทศบาลภาคกลาง เขตการศึกษาท้องถิ่นที่5
ปรัชญา ประพฦติดี มีวิชา พัฒนาคุณภาพชีวิต
อุดมการณ์ พัฒนาผู้เรียน ดี เก่ง มีความสุข รักประเทศชาติ
คติพจน์ สามัคคี มีวินัย ใจซื่อสัตว์ ประหยัด อดทน คนขยัน กตัญญ
คำขวัญ วินัยดี มีวิชา กีฬาเด่น เป็นโรงเรียนของชุมชน
อักษรย่อ ท.2
สีประจำโรงเรียน นําตาล-เหลือง
ดอกไม้ประจำโรงเรียนดอกกล้วยไม้
เกียรติคุณโรงเรียน
ปีการศึกษา2540 โล่รางวัลสถานศึกษาที่จัดจริธรรมดีเด่น จากกระทรวงศึกษาธิการ
ปีการศึกษา2541 รางวัลดีเด่นระดับประเทศจากการประกวดเล่านิทาน เด็กกล้า กับตราหมีหลัส รายการ
โทรทัศน์บ้านน้อยซอยเก้า สถานีโทรทัศน์ ช่อง9รางวัลชนะเลิศโล่ประทาน จากเจ้า
หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ปีการศึกษา2542 รางวัลโล่พระราชทาน ชนะเลิศ การแข่งขันเล่านิทาน เนื่องวันเด็กแห่งชาติ พิพิธภัณฑ
สถานแห่งชาติราชบุรี รางวัลชนะเลิศการประกวด จัดป้ายนิทรรศการราชบุรีต้านยาเสฑ
ติดจังหวัดราชบุรี รางวัลชนะเลิศประกวด สุนทรพจน์ ต้านยาเสพติด จังหวัดราชบุรี
โล่รางวัล รายกรัฐมนตรี รายชวน หลีกภัย
ปีการศึกษา2543 รางวัลเหรัยญทองสื่อการเรียนอนุบาล เขตการศึกษา5 รางวัลชนะเลิศ การแข่งขัน
ฟุตบอลกีฬานักเรียนเทศบาลและเมือง พัทยา ครั้งที่16 ระดับภาค กลาง
รางวัลชนะเลศ ประกวดประดิษฐ์กระทงดอกสด รางวัลชนะเลิศกระทงประเภทสวยงาม
ปีการศึกษา2544 รางวัลชนะเลิศ ประกวดโรงอาหารดีเด่น จากเทศบาลเมืองราชบุรี
ปีการศึกษา2545 รางวัลเหรีญทองการประกวดสื่ออนุบาล เขตการศึกษา 5 เกียรติบัตร โรงอาหาร ได้
มาตรฐานระดับ ดีมาก จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เกียวติบัตร สถาน
ประกอบการที่ได้รับการรับรองดำเนินงานตามแนวทางที่ดีด้านการป้องกัรและลม
พิษและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โล่ประกาศติคุณ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ดีเด่นระดับ
ทอง จังหวัดราชบุรี
ปีการศึกษา2546 โล่ประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพดีเด่น ระกับทองจังหวัดราชบุรี
ปีการศึกษา2547 โล่ประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนส่งเสริม สุขภาพดีเด่น ระดับทองจังหวัดราชบุรี
ปีการศึกษา2548 โล่ประกาศเดียรติคุณ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพดีเด่นรัดับทองจังหวัดราชบุรี
ชนะเลิศประกวดสวดมนต์หมู่ ทำนองสรภัญญะ ระดับภาคกลางจังหวัดนนทบุรี
ชนะเลิศประกวดตอบปัญหา ระดับภาคกลางจังหวัดนนทบุรี
ชนะเลิศกรีฑา ชาย หญิง รัดับภาคกลาง จังหวัดราชบุรี
ชนะเลิศถ้วยกรีฑา ระดับภาคกลาง จังหวัดราชบุรี
ชนะเลิศประกวดกระทงประเภทสวยงามป
ปีการศึกษา2549 รางวัลชนะเลิศถ้าวยรวมกรีฑาชาย รุนอายุ 13ปี ระดับประเทศจ.สุราษฎร์ธานี
รางวัลชนะเลิศประกวด คอลัมน์ นักเขียน น้อยจากหนังสือเพื่อนรัก ระดับประเทศ
รางวัลระดับเหรียญทองแข่งขันความเป็นเลิศทางวิชาการชั้นป.3เขตการศึกษาท้องถิ่น
ที่5เทศบาลเมืองหัวกหิน
รางวัลชนะเลิศเหรียญทองยอกเยี่อม เกะสลักปักปลไม้ ช่วงชั้นที่3กขตการศึกษาท้อง
ถิ่นที่5 เทศบาลเมืองหัวหิน
รางวัลชนะเลิศ เหรียญทองยอดเยี่ยม เขียนบรรยายถาพภาษาอังกฦษช่วงชั้นที่3เขต
การศึกษาท้องถิ่นที่5 เทศบาลเมืองหัวหิน ผ่านการปนะเมิน โครงงาน โรงเรียน
ส่งเสริมสุขภาพและเด็ไทยทำได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 โครงการธราคาร
ขยะ ระดับภาคกลาง รางวัลชนะเลิศ ประดิษฐ์ กระทงสวยงาม ระดับจังหวัด
รางวัลชนะเลิศ ประดิษฐ์กระทงดอกไม้สดระดับจังหวัด
วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วิธีทำupload
1.ดับเบิลคลิกlntent-gioogle
2.พิมคำว่า โค้ดนาฬิกา
3.เลือกwebsiteใดก็ได้ที่มีโค้ด
4.copyโค้ด
5.เปิดwebolg
6.เลือก การออกแบบ
7.godget
8.เลือดhtml java saipt
9.คลิกขางโค้ดที่ก็อบปั้ไว้
ข้อสนเทศ คือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลข้อมูล เลือกให้เห็นข้อมูลสื่อความหมายและเป็นประโยชย์เช่นคผลการแจ้งเกิดแจ้งเกิดของเด็กไทยทุกอำเอ ก็จะทราบว่าปีนี้ เด็กไทยเกิดปีละกี่คน นี่คือเอาของมูลมาประมวลให้เป็นข้อสนเทศ
2.พิมคำว่า โค้ดนาฬิกา
3.เลือกwebsiteใดก็ได้ที่มีโค้ด
4.copyโค้ด
5.เปิดwebolg
6.เลือก การออกแบบ
7.godget
8.เลือดhtml java saipt
9.คลิกขางโค้ดที่ก็อบปั้ไว้
ข้อสนเทศ คือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลข้อมูล เลือกให้เห็นข้อมูลสื่อความหมายและเป็นประโยชย์เช่นคผลการแจ้งเกิดแจ้งเกิดของเด็กไทยทุกอำเอ ก็จะทราบว่าปีนี้ เด็กไทยเกิดปีละกี่คน นี่คือเอาของมูลมาประมวลให้เป็นข้อสนเทศ
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานหมายถึงกิจกรรมที่เปิดโอกาศให้นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้าทดลองและลงมือปฎิบัติด้วยตนเอง
ความสามารถ ความถนัดและความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์หรือกระบวนการใดๆ ที่สามารถนำมาใช้ศึกษาหาคำตอบในเรื่องนั้นๆ โดยมีครูผู้สอนคอยให้คำปรึกษาแนะนำแก่นักเรียนอย่างใกล้
ประเภทโครงงาน
1โครงงานประเภทสำรวจเป็นโครงงานประเภทเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อสาเหตุของปัญหาหรือสำรวจความคิดเห็น
2.โครงงานประเภททดลองเป็นโครงงานที่ต้องออกแบบ เพื่อศึกษาผมการทอลองว่าเป็นไปตามที่ตั้งสมุตฐานไม้หรือไม่
3.โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ เป็นโครงงานที่ประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้าสู่กระบวนการประปฏิบัติ โดยอาศัยเครื่องมือ วัสดุ อุปการณ์ เพื่อประดิศฐ์ชิ้นการ
4โครงงานประเภททฦษฎี เป็นโครงงานที่มีลักษณะเป็นการหาความรู้ใหม่ โดยการรวบรวมข้อมูลและนำมาวิเคราะห์ของโครงงาน
ลักษณะสำคัญของโครง
1.เป็นเรื่องที่นักเรียนสนใจหาคำตอบ
2.เป็นการเรียนรู้ที่มีกระบวนการ มีระบบ
3.เป็นการบูรณาการเรียนรู้
4.นักเรียนได้ใช้ความสามารถและทักษะในหลายๆด้าน
5.มีความสอดคล้องกับชีวิตจริง
6.มีการศึกษาด้วยวิธีการและแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย
7.เป็นการแสวงหาความรู้และสรุปความรู้ด้วยตัวเอง
8.มีการนำเสนอโครงงานที่เหมาะสม
9.สิ่งที่ค้นพบสามารถนำไปปรับใช้ชีวิตประจำวันได้
กิจกรรมที่จักว่าเป็นโครงงาน ควรมีองค์ประกอบดังนี้
1.เป็นกิจกรรมเกียวข้องกับซอฟต์แวร์และเครื่องคอมพิวต์เตอร์
2.นักเรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่ศึกษา ค้นคว้าและพัฒนา
3.เก็บรวบรวมหรือประดิษฐ์คิดค้นด้วยตนเองตามความสนใจและระดับความรู้ความสามารถ
4.นักเป็นผู้วางแผนในการศึกษา สรุปและนำเสนอผลงานการศึกษาด้วยตนเองโดยใครผู้สอนเป็นที่ปรึกษา
แนวทางการเขียนโครงงาน
1.ชื่อโครงงาน (ระบุชื่อโครงงานที่ชัดเจนกะทัดรัด เฉพาะเจาะจงว่าจะทำอะไร ศึกษาอะไร)
2.ชื่อผู้ทำโครงงาน(ระบุชื่อ-นามสกุลนักเรียนระดับชั้นโรงเรียน ของผู้จัดทำโครงงาน)
3.ชื่อครูที่ปรึกษา(ระบุชื่อที่ให้คำแนะนำในการทำโครงงาน)
4.บทคัดย่อ(บอกเค้าโครงของโครงงานอย่างย่อๆซึ่งประกอบด้วยเรื่อง/วัตถุประสงค์/วิธีการศึกษาและการสรุปผลงาน
5.กิตติกรรมประกาศ(ระบุคำกล่าวแสดงความขอบคุณบุคคล หรือหน่วยงานที่ได้ให้ความช่วยเหลือจนงานสำเร็จ
6.ที่มาและความสำคัญของโครงงาน(เขียนอธิบายโครงงานนี้มีสาเหตุมาจากอะไร ดีอย่างไร ทำไมจึงต้องทำมีหลักทฦษฎีอะไรสนับสนุนขยายเพื่มเติมปรับปรุงมาจากเรื่งออะไร)
7สมมติ ฐานของการศึกษา(เป็นการคาดคะเนคำตอบไว้ล่วงหน้า)
8.วิธีการดำเนินงาน(ระบุระยะเวลาดำเดินงานขั้นตอนการปฎิบัติ ผู้รับผิดชอบหรืออธิบายการเริ่มทำงาน การจัดทำข้อมูล การจัดรู้แบบการเก็บข้อมูล ขั้นตอนการดำเนินการ เป็นอย่างไร)
9.สรุปผลงานการศึกษา(ระบุความรู้ทักษะ ประสบการณ์สิ่งที่ได้รับ ความแปลกใหม่ ความคิดริเริ่ม สร้างสสรค์ผลงานที่ตรงตามจุดคืมุงหมาย ผลการศึกษาค้นคว้าที่ได้รับ)
10.อภิปรายผล/ประโยชย์/ข้อเสนอแนะ(ระบุถึงผลที่ได้รับประโยชย์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษาค้นคว้าดังนี้และระบุข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำโครงงาน)
11.เอกสารอ้างอิง(ระบุหนังสือเอกสารที่ใช้ประการศึกษาค้นคว้า รวมทั้งระบุชื้อบุคคลที่ให้ข้อมูลในการศึกษาค้นคว้า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)